เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร













ประวัติ
เป๊ก ผลิตโชคเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2527 ได้เข้าศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก แต่ยังไม่จบระดับอนุบาล บิดาก็ต้องย้ายไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย จึงย้ายไปทั้งครอบครัวเป็นเวลาประมาณ 7 ปี ได้ศึกษาชั้นอนุบาลและชั้นประถมที่โรงเรียน Cabramatta Public School ในซิดนีย์ ต่อมาได้ย้ายกลับมาเมืองไทย และศึกษาระดับมัธยมที่ โรงเรียนนานาชาติเอกมัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สายศิลป์ภาษา (อังกฤษ–ฝรั่งเศส) และระดับอุดมศึกษา สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ[2] ปัจจุบัน ศึกษาระดับปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ) วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยรังสิต พ่อกับแม่เป๊กได้แยกทางกัน คุณแม่ได้ย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ฮอลแลนด์ แต่เป๊กอยากเดินตามฝันของตัวเอง จึงเลือกที่จะอยู่กับพ่อที่เมืองไทย ตั้งแต่อายุ 15 ปี

งานบันเทิง
พ.ศ. 2545 เป๊กเคยเป็นสมาชิกวงดนตรีชื่อ G-BOYZ สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร่วมกับฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และแบงค์ พิสิษฐ คำยอด มีผลงาน 2 เพลง คือเพลง "ยิ้ม ยิ้ม" (ต้นฉบับ:ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) และเพลง "ไม่รู้จะเลือกใคร" (ต้นฉบับ: ชาคริต แย้มนาม) โดยได้ออกมิวสิกวีดีโอเพลงเปิดตัว คือ เพลง "ยิ้ม ยิ้ม" ภายหลังเป็นนักร้องเดี่ยวในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
พ.ศ. 2548 เป๊กมีผลงานที่เป็นที่รู้จักจากเพลง "ไม่มีใครรู้" ในอัลบั้ม One Man Story ชุดที่ 1 จากนั้นจึงมีผลงานอัลบั้มชุดแรกชื่อ One ผลิตโชคออกมาในปีเดียวกันซึ่งก็ประสบความสำเร็จ มีเพลงดังไม่ว่าจะเป็นเพลง "หรือแค่ขำๆ" "ใจหนึ่งก็รักอีกใจก็เจ็บ" และ "นิทานหิ่งห้อย" จากนั้นก็ได้ร่วมงานอีกครั้งใน One Man Story #2 อัลบั้ม Love Passion มีเพลงดังคือ “ชู้ในใจ” และจากนั้นก็ออกผลงานเดี่ยวชุดที่ 2 คือ I'm in Love หลังจากนั้นได้รวมตัวกันตั้งวงทรีโอในนาม "เป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์" กับอัลบั้ม Together มีเพลงดังอย่าง "แค่คนโทรผิด" โดยมีเพลง "ไม่รักอย่าทำให้คิด" เป็นเพลงเดี่ยวของตนเองในอัลบั้มและเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เป๊กได้ย้ายจากค่ายแกรมมี่มาอยู่กับค่ายเอ็กแซ็กท์
พ.ศ. 2555 เป๊กออกอัลบั้มกับค่าย Humbrella ในเครือของ GMM Grammy มีซิงเกิ้ลเพลง "อยากให้แววตาฉันเป็นคนอื่น (Why)" ปี 2559 นอกจากนั้นเป๊กยังเคยเป็นพิธีกรรายการดิสนี่ย์ คลับ และรายการ Wake Club และพากย์เสียงให้แก่ภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ พากย์เป็น เพอร์ซี่ วีสลี่ย์, ภาพยนตร์เรื่อง Happy Feet เป็นมัมเบิล และพากย์เป็น ปีเตอร์แพน ในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Peter Pan2 ในปี 2558 เป๊ก ผลิตโชคเป็นเทรนเนอร์ในรายการ The Trainer ซีซันที่ 5 อีกด้วย
พ.ศ. 2560 เป๊กเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซั่น 1 ในนามหน้ากากจิงโจ้ และเป็นผู้ชนะของกรุ๊ป Dและออกอัลบั้มกับค่ายไวท์มิวสิค ในเครือของ GMM Grammy มีซิงเกิลเพลง "โทษที่เอาแต่ใจ(Sorry)" อัปโหลดขึ้นเว็บไซต์ยูทูบครั้งแรกในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
บอกได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงของเมืองไทย ที่นักร้องคนนี้กลับมาผงาดในวงการเพลงอีกครั้งอย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยความสามารถที่เต็มเปี่ยม ประกอบกับความน่ารักเป็นกันเอง ทำให้มีแฟนคลับทั้งชายและหญิง ทุกช่วงวัย ติดตามชื่นชมผลงาน ตั้งแต่เริ่มเปิดหน้ากาก จนบัดนี้ความนิยมไม่ได้ลดน้อยลงเลย ยิ่งทำให้กระแสความดังทวีคูณขึ้นเป็นอีกเท่าตัว เมื่อพลังของ PFC เทใจให้กับผลิตจนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในงานไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ดที่ผ่านมา และอีกหลายปรากฏการณ์ที่สร้างความประทับใจ และแสดงถึงความดัง ความ Hot ที่ฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์จองบัตรคอนเสิร์ต "THE ONE CONCERT : THE FANTASTIC 3 RETURNS" ที่ เป็นการรวมตัวกันของ แสตมป์ อภิวัชร์ เบน ชลาทิศ และเป๊กผลิตโชค ที่เปิดขายบัตรหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนี้ยังปรากฎการณ์ที่เป๊กขึ้นปกนิตสารฉบับหนึ่ง แฟนคลับก็ไม่พลาดในการจองเป็นเจ้าของจนแทบไม่เหลือบนแผงกันเลยทีเดียว เป็นเพียงปรากฏการณ์เพียงบางส่วนที่ เป๊ก ผลิตโชค ทำให้วงการบันเทิงไทย กลับมามีสีสันและคึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินอีกหลายท่าน
ผู้เขียนเองก็ติดตามข่าวสารของ เป๊กผลิตโชค จากสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง บอกได้เลยว่ากระแสนี้ยังไปต่ออีกยาว สำหรับเป๊ก ผลิตโชค ชนิดที่ว่าคิวงานไม่ว่างกันเลยทีเดียว แฟนคลับเองก็น่ารักมาก ซึ่งกลุ่ม PFC เรียกตัวเองว่า "นุช" หากผู้อ่านได้ติดตามแฟนคลับกลุ่มนี้แล้วจะเห็นถึงความน่ารักน่าประทับใจ ต่อสิ่งที่บรรดาแฟนคลับทำให้กับ เป๊ก ผลิตโชค ส่วนตัวมองว่า ศิลปินเป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกันที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของ แฟนคลับ เพราะฉะนั้น จึงมองว่าถ้าศิลปิน น่ารัก แฟนคลับน่ารัก จะอยู่ในวงการนี้ได้ยาวแน่นอนจ้า สำหรับศิลปินคนนี้ คงมีอีกหลายเรื่องราว ที่จะเขียนถึงเค้าในแง่มุมต่างๆ โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ











ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น